Chiang Rai Organic House ได้ลองปลูกหมามุ่ยสายพันธุ์อินเดีย ลักษณะต้นมีลักษณะคล้ายกับหมามุ่ยของไทยแต่แตกต่างตรงที่ลักษณะของฝักและเมล็ด เมล็ดหมามุ่ยพันธุ์อินเดียจะใหญ่กว่า ที่ Chiang Rai Organic House เราปลูกหมามุ่ยสายพันธุ์เมล็ดสีดำ ลักษณะฝักมีสีดำเข้ม เมล็ดสีดำขนาดเท่าเม็ดมะขาม โดยได้เริ่มปลูกเดือนธันวาคม 2559 เป็นระยะเวลา 3 เดือนเริ่มออกดอกและฝักแล้ว ใช้มือจับที่ฝักได้ ขนจะนิ่มๆ ไม่คัน
หมามุ่ยอินเดียมีชื่อว่า Velvet Bean หรือ ถั่วเวลเวท มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mucuna pruriens (L.)DC.var.utilis เป็นสายพันธุ์หมามุ่ยที่ทั่วโลกให้การยอมรับถึงความปลอดภัยและนิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
ถามว่าการปลูกหมามุ่ยพันธุ์อินเดียยากไหม..ตอบได้เลยว่าไม่ยากค่ะ เหมือนกับการปลูกถั่วทั่วไป ยิ่งปลูกแบบอินทรีย์ด้วยแล้วง่ายมาก ไม่มีขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อน เริ่มได้จากการเพาะเมล็ด โดยนำเมล็ดไปแช่น้ำสัก 4-6 ชั่วโมง แล้วห่อผ้าขนหนูชุบน้ำ ทิ้งไว้ 1 คืน พอเปลือกหุ้มเมล็ดเริ่มแตกออก ก็นำไปปลูกลงในวัสดุเพาะ โดยทั่วไปอาจจะใช้ดินปลูก หรือที่รู้จักกันคือ พีทมอส ถ้าไม่มีก็ใช้ดินผสมแกลบดำผสมกับขุยมะพร้าวละเอียดก็ได้ เมื่อเมล็ดเพาะเจริญเป็นต้นกล้า ความสูงประมาณ 10-15 ซม. ก็ทำการย้ายไปปลูก โดยขุดหลุมกว้าง ยาว ลึก ประมาณ 1 ฟุต นำปุ๋ยคอกมาผสมกับดิน แล้วปลูกต้นกล้าหมามุ่ยอินเดียลงไป ใช้ฟางคลุมโคนต้น รดน้ำทุกวัน เป็นอันเสร็จสิ้น พอต้นหมามุ่ยอินเดียโต และเริ่มเป็นเถาเลื้อย ก็ให้นำไม้หลักหรือไม้ไผ่มาปัก เพื่อให้เถาเลื้อยพันและเจริญเติบโตต่อไป จนออกดอก ออกฝัก ใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน
ถามว่าการปลูกหมามุ่ยพันธุ์อินเดียยากไหม..ตอบได้เลยว่าไม่ยากค่ะ เหมือนกับการปลูกถั่วทั่วไป ยิ่งปลูกแบบอินทรีย์ด้วยแล้วง่ายมาก ไม่มีขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อน เริ่มได้จากการเพาะเมล็ด โดยนำเมล็ดไปแช่น้ำสัก 4-6 ชั่วโมง แล้วห่อผ้าขนหนูชุบน้ำ ทิ้งไว้ 1 คืน พอเปลือกหุ้มเมล็ดเริ่มแตกออก ก็นำไปปลูกลงในวัสดุเพาะ โดยทั่วไปอาจจะใช้ดินปลูก หรือที่รู้จักกันคือ พีทมอส ถ้าไม่มีก็ใช้ดินผสมแกลบดำผสมกับขุยมะพร้าวละเอียดก็ได้ เมื่อเมล็ดเพาะเจริญเป็นต้นกล้า ความสูงประมาณ 10-15 ซม. ก็ทำการย้ายไปปลูก โดยขุดหลุมกว้าง ยาว ลึก ประมาณ 1 ฟุต นำปุ๋ยคอกมาผสมกับดิน แล้วปลูกต้นกล้าหมามุ่ยอินเดียลงไป ใช้ฟางคลุมโคนต้น รดน้ำทุกวัน เป็นอันเสร็จสิ้น พอต้นหมามุ่ยอินเดียโต และเริ่มเป็นเถาเลื้อย ก็ให้นำไม้หลักหรือไม้ไผ่มาปัก เพื่อให้เถาเลื้อยพันและเจริญเติบโตต่อไป จนออกดอก ออกฝัก ใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน
สารอาหารในเมล็ดหมามุ่ยอินเดีย มีกรดอะมิโนที่จำเป็น 18 ชนิด และแร่ธาตุ ได้แก่ แคลเซียม ทองแดง เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม และสังกะสี นอกจากนี้พบว่าเมล็ดหมามุ่ยมีโปรตีนอีกด้วย
และที่สำคัญคือในเมล็ดหมามุ่ยสายพันธุ์อินเดียจะประกอบไปด้วยสาร แอล-โดปา (L-Dopa, Levodopa) ซี่งเป็น Aromatic non-protein amino acid และเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารสื่อประสาท โดปามีน (dopamine) ที่มีอิทธิพลต่อระบบการสืบพันธุ์ของสัตว์และมนุษย์ มีผลทำให้สมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้น ทั้งยืดระยะเวลาในการมีเพศสัมพันธ์ เพิ่มปริมาณฮอร์โมนเพศได้ และถูกนำใช้ในการรักษาโรคพาร์กินสัน อีกทั้งยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) ที่ทำงานควบคู่ไปกับสาร แอล-โดปา ( L-Dopa) เพื่อส่งเสริมสุขภาพของสมอง และชะลอความแก่ชรา ทำให้รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย ลดความเครียด
สรรพคุณของหมามุ่ยอินเดียยังเป็นที่รู้จักกันดีว่าช่วยปรับความสมดุลของร่างกาย เสริมสร้างความแข็งแรง และยังมีคุณประโยชน์อีกมากมายหลายอย่าง
สําหรับข้อควรระวังในการทานเมล็ดหมามุ่ยอินเดีย คือ ต้องคั่วให้สุก ก่อนเพราะหากไม่สุก จะเกิด ‘สารพิษ’ บางอย่างขึ้นทำให้เกิดอาการประสาทหลอนได้ เพราะในเมล็ดหมามุ่ยินเดียมีสารแอลโดปา (L-Dopa) ที่จะทำให้สารสื่อประสาทเกิดความไม่สมดุลได้ นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยบางโรคที่ไม่ควรกิน เช่น ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ผู้ที่ต้องใช้ยาทางจิตเวช รวมทั้งเด็ก และหญิงตั้งครรภ์
